แค่พูดคำว่าขายฝากอสังหาริมทรัพย์หลายคนคงเข้าใจได้ไม่ยาก อาจหมายถึงที่ดินบ้านหรือคอนโดหรือไม่ก็เป็นทรัพย์สินอื่น ๆ ถามว่าถูกไหม แน่นอนว่าไม่ใช่คำตอบที่ผิดแต่ไม่ใช่ทั้งหมด แต่อสังหาริมทรัพย์ที่สามารถขายฝากได้มีกี่ประเภทและหากต้องการประเมินราคาอสังหาต้องคำนึงถึงปัจจัยใดบ้างเราจะพาไปทำความเข้าใจให้มากขึ้น
อสังหาริมทรัพย์ที่สามารถขายฝากได้
สำหรับอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถขายฝากได้ที่พบเห็นได้บ่อยมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ประเภท ดังนี้
- อสังหาฯ สำหรับการอยู่อาศัย เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ โครงการที่อยู่อาศัย บ้านแฝด ทาวน์โฮม บ้านเดี่ยวขนาดใหญ่มาก ๆ โดยเรทราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 30 – 100 ล้านขึ้นไป
- อสังหาฯ เพื่อการพักผ่อน เช่น อาคารชุด โรงแรมตากอากาศ บ้านพักตากอากาศ รีสอร์ท และอื่น ๆ
- อสังหาฯ เพื่อการพาณิชย์ หรืออสังหาที่มีจุดประสงค์ในการใช้ในธุรกิจเพื่อแสวงหากำไร เช่น ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน ร้านอาหาร สถานีบริการ
ประเภทอสังหาอื่น ๆ
นอกเหนือจาก 3 ประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังมีอีก 2 ประเภทที่นำมาใช้ในการขายฝากได้เช่นกัน คือ
- อสังหาฯ เพื่อการอุตสาหกรรม ได้แก่ คลังสินค้า โกดัง โรงงาน หรือที่ดินเปล่าบริเวณนิคมอุตสาหกรรม
- อสังหาฯ เพื่อการเกษตร หรืออสังหารที่จัดสรรไว้สำหรับทำการเกษตรเป็นหลัก เช่น สวน ไร่ ที่นา
ปัจจัยสำคัญในการประเมินราคาอสังหา
สำหรับคนที่สนใจว่าการที่อสังหาริมทรัพย์ราคาแตกต่างกันนั้นเกิดจากอะไรหลัก ๆ ขึ้นอยู่กับปัจจัย ดังนี้
- ทำเลที่ตั้ง กรณีอสังหาริมทรัพย์ตั้งอยู่ในทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมและมีสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้านครบครัน เช่น อยู่ห่างจากชุมชนไม่เกิน 8 – 10 กิโลเมตร มีทางเข้า – ออกสะดวกสบาย บริษัทขายฝากจะมีการประเมินราคาสูงกว่าอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ
- สภาพพื้นดิน มีผลต่ออายุการใช้งานของอสังหาริมทรัพย์นั้น ๆ กรณีพื้นดินไม่แน่น อ่อนยวบ หรือเสี่ยงต่อการทรุดตัวของหน้าดินในอนาคตอาจทำให้ราคาตกลง
- รูปทรงของพื้นที่ การกำหนดราคาจะขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการใช้ประโยชน์และออกแบบโครงสร้างตึก โดยรูปทรงที่มีราคาค่อนข้างสูงมีด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ สี่เหลี่ยมผืนผ้าและสี่เหลี่ยมจัตุรัส
- ประวัติการใช้งาน กรณีที่บริเวณพื้นที่นั้น ๆ มีประวัติด่างพร้อย เช่น เป็นโรงฆ่าสัตว์ เป็นสุสานเก่า หรือปัจจัยไม่เอื้ออำนวยใด ๆ ก็ตามจะส่งผลให้การประเมินราคาอสังหาดังกล่าวมีมูลค่าน้อยลง
สรุปได้ว่าอสังหาริมทรัพย์สำหรับขายฝากนั้นครอบคลุมเกือบทุกประเภทตั้งแต่อสังหาฯ เพื่อการอยู่อาศัย อสังหาฯ เพื่อการพักผ่อน อสังหาฯ เพื่อการอุตสาหกรรม อสังหาฯ เพื่อการพาณิชย์ และอสังหาฯ เพื่อการเกษตร โดยราคาของแต่ละประเภทจะขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้ง รูปทรงพื้นดิน สภาพพื้นดิน และประวัติการใช้งาน หากพบว่ายิ่งมีปัจจัยใด ๆ ไม่เอื้ออำนวยจะยิ่งส่งผลให้ราคามีมูลค่าถูกลง